ผู้นำการเปลี่ยนแปลง

.ในการฝึกอบรมหลักสูตร "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง" มีการกล่าวกันค่อนข้างแพร่หลายว่า "เราจะต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง" พอมาถึงการจัดการเรียนการสอน ก็กล่าวว่า "เราจะต้องนำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียน" ในการนี้ คำถามที่มักถูกถาม(หรืออาจถามในใจ) คือ "อย่างไร จึงจะเรียกว่า เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง"....คำตอบในเรื่องนี้ มีผู้พยายามตอบในหลายลักษณะ เช่น
-เราจะต้องมุ่งมั่น ในการทำงาน
-เราจะต้องตั้งเป้าหมายในการทำงาน และคิดกลวิธีที่มีประสิทธิภาพ
-เราจะต้องบริหารจัดการงานในหน้าที่อย่างเป็นระบบ
-เราจะต้องนำนวัตกรรม วิธีการใหม่ ๆ มาใช้ในการพัฒนางาน
-เราจะต้องตรวจสอบความสำเร็จของงานเป็นระยะ ๆ
-เราจะต้องพัฒนางาน จนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
-ฯลฯ
........จาก การพยายามอธิบาย "ภาวะการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง" ดังกล่าวข้างต้น จะพบว่า ส่วนหนึ่งเป็นคำอธิบายที่สะท้อนถึงพฤติกรรมการทำงานหรือความพยายามในการพัฒนางาน(Attempt) อีกส่วนหนึ่ง(ที่ระบายสีแดง) เป็นคำอธิบายที่กล่าวถึงหรือสะท้อนถึงความสำเร็จของงาน(Achieved)

........ในทัศนะของผู้เขียน เห็นว่า ใครก็ตามที่มีความพยายามสูงมากในการพัฒนางาน(พยายามพัฒนางานในทุกวิถีทาง)...น่าจะได้ชื่อว่า "ผู้พยายามเปลี่ยนแปลงคุณภาพงาน" ใครก็ตามที่พยายามพัฒนางาน จนประสบความสำเร็จ(Achieved) น่าจะเรียกว่า "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง"
-ถ้าผลงานปีนี้(ตามตัวชี้วัดคุณภาพ) ดีกว่าปีที่แล้วอย่างมาก....ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง..เกรด A
-ถ้าผลงานปีนี้(ตามตัวชี้วัดคุณภาพ) ดีกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก..ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง เกรด B
-ถ้าผลงานปีนี้(ตามตัวชี้วัดคุณภาพ) ดีกว่าปีก่อนเล็กน้อย...ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง เกรด C(ผ่าน)

........ตามคำนิยาม และการตีค่าผู้นำการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวข้างต้น ครูทุกคน ต้องนำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียน หรืออีกนัยหนึ่งก็ คือ จะ ต้องพัฒนาให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน/คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในตัวผู้ เรียน/สมรรถนะในตัวผู้เรียน ในปีหลัง สูงกว่าในปีก่อน ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงจะถือว่า เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง...ซึ่ง หากเราทำได้เช่นนี้ สัก 10 ปี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก้พัฒนาขึ้น 10 ขั้น...สักวันหนึ่ง คุณภาพการศึกษาของประเทศ จะก้าวขึ้สู่ความเป็นเลิศได้อย่างแน่นอน

.......ความสำคัญของการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง คือ "ครูทุกคน/นักพัฒนาทุกคน จะต้องมุ่งมั่น ตั้งใจและสัญญากับตนเอง(Self-MOU) ว่า จะพัฒนางาน ให้ปรากฏผลงานปีหลัง ๆ ดีกว่าปีก่อน ๆ อย่างสม่ำเสมอ" หากเราทำได้ "เราคือผู้นำการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง"
ที่มา
http://drsuphak.blogspot.com/

“ห้องเรียนคุณภาพ” กับ การขับเคลื่อนหลักสูตร 2551

โดย รศ.ดร.สุพักตร์ พิบูลย์

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2552 ได้ไปบรรยาย เรื่อง การนำแนวคิด

“ห้องเรียนคุณภาพ” สู่การปฏิบัติ ให้แก่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา

ในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กทม.เขต 2 ณ โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์–รีเจนต์

ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ในการนี้ เห็นว่า น่าจะจำเป็นต้องพูดเรื่อง “ห้องเรียนคุณภาพ

กับ การขับเคลื่อนหลักสูตร 2551” เพราะ ในปีการศึกษา 2552

เรากำลังจะทดลองนำร่องการใช้หลักสูตรแกนกลาง พ.ศ.2551

ในปี 2550-51 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้พยายามนำแนวคิดเรื่อง “ห้องเรียนคุณภาพ” (The Complete Classroom/Quality Classroom) ซึ่ง เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นให้สถานศึกษา บริหารจัดการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพในระดับปฏิบัติ คือ ระดับห้องเรียน(หมายถึง การจัดการเรียนการสอนระดับรายวิชา โดยครูผู้สอน รวม ทั้ง การปฏิบัติการพัฒนาหรือส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนโดยอาจารย์ประจำชั้น) โดยเชื่อว่า หากการจัดการเรียนการสอนระดับรายวิชามีคุณภาพตามเกณฑ์ห้องเรียนคุณภาพ แล้ว สถานศึกษาแห่งนั้นก็น่าจะกลายเป็นสถานศึกษาที่มีคุณภาพหรือมีความเป็นเลิศ(Excellence School) ในที่สุด

จุดเน้นสำคัญของแนวคิด ห้องเรียนคุณภาพ โดยสรุป เป็นดังนี้

1) มุ่งนำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียน : จะต้องเปลี่ยน/

ยก ระดับคุณภาพของผู้เรียน ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม ชัดเจน(ผลสัมฤทธิ์ตามหลักสูตร จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น)

2) ให้ความสำคัญกับออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐาน

3) วิจัยในชั้นเรียน (CAR) : ให้ความสำคัญกับการสร้าง

นวัตกรรมที่เหมาะสมกับธรรมชาติของผู้เรียนหรือเนื้อหาวิชา เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง

4) ใช้ ICT เพื่อการสอนและสนับสนุนการสอน

5) สร้างวินัยเชิงบวก (Positive Discipline): เน้นการ

ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หรือคุณลักษณะ ด้วยกระบวนการเสริมแรงเชิงบวก

หากพิจารณา ความเปลี่ยนแปลงระดับครูผู้สอน จะต้องมองเห็นการ

เปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 4 ประการ คือ

1) Effective Syllabus : กำหนดหน่วยการเรียนรู้/หลักสูตรระดับรายวิชา

ที่มีประสิทธิภาพ

2) Effective Lesson Plan : จัดทำแผนการสอน/แผนจัดการเรียนรู้ที่มี

ประสิทธิภาพ

3) Effective Teaching : จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ใช้

เทคนิคการสอนที่หลากหลาย สอดคล้องกับธรรมชาติของผู้เรียน จุดประสงค์การเรียนรู้ หรือ เนื้อหาสาระ

4) Effective Assessment : วัดและประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ

ให้ความสำคัญกับการประเมินตามสภาพจริง

ภาย ใต้แนวคิด “ห้องเรียนคุณภาพ” ในปีการศึกษา 2552 ซึ่งจะมีการทดลองนำร่องการใช้หลักสูตรแกนกลาง พ.ศ.2551 ผมคิดว่า สถานศึกษาและครูทุกคนจะต้องผนวกแนวคิดนี้ เข้ากับการขับเคลื่อนหลักสูตร 2551 ซึ่งอาจพิจารณาดำเนินการ ดังนี้

1) ครูผู้สอนทุกคน จะต้องมุ่งมั่น ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพในวิชาที่รับผิดชอบ คือ

-เพิ่มระดับเกรดเฉลี่ย และ ลด ค่าการกระจายหรือความแตกต่างระหว่างบุคคล

-พัฒนา ให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ และมีสมรรถนะที่สำคัญ 5 ประการ(ครูประจำชั้น จะต้องเป็นเจ้าภาพหลัก ในการดูแล/ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในภาพรวม)

2) ให้ความสำคัญกับการออกแบบการเรียนรู้ที่อิงมาตรฐานชั้นปี หรือช่วงชั้น ตามที่หลักสูตร 2551 กำหนด

3) วิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ โดย ครูทุกคน ควรมีผลงานวิจัย หรืองานสร้างสรรค์ ที่สำคัญ ๆ อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 รายการ(ดูประเด็นวิจัย ที่สอดคล้องกับหลักสูตร 2551 ที่.............

4) ใช้ ICT เพื่อการสอนและสนับสนุนการสอน ทั้ง การสืบค้นข้อมูล องค์ความรู้ การจัดทำฐานข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ในระดับรายวิชา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านจอภาพ หรือ การบริหารจัดการเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ผ่านจอภาพ

5) สร้างวินัยเชิงบวก (Positive Discipline) ควรมีการ

ทดลองนำร่อง กระบวนการสร้างวินัยเชิงบวก ที่เน้นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ สังเคราะห์และจัดทำฐานข้อมูล Best Practice ในเรื่อง การสร้างวินัย หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ที่เป็นรูปธรรม
ที่มา http://kruporn2515.igetweb.com/index.php?mo=3&art=457363