เจดีย์เฉลิมพระเกียรติพระเจ้ารามคำแหงมหาราช


เจดีย์ยุทธหัตถี

หรือ เจดีย์เฉลิมพระเกียรติพระเจ้ารามคำแหงมหาราช ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า เจดีย์ชนช้าง ตั้งอยู่บนดอยช้าง ตำบลเกาะตะเภา อ.บ้านตาก ดอยช้างเป็นเนินดินเล็ก อยู่ทางเหนือของดอยพระธาตุไปเล็กน้อย เจดีย์นี้เป็นโบราณสถาน มีอายุอยู่ในสมัยกรุงสุโขทัยรวม 700 ปีเศษ องค์เจดีย์ยุทธหัตถีอยู่เยื้องกับวัดพระบรมธาตุประมาณ 200 ม.
ลักษณะของเจดีย์ยุทธหัตถี เป็นศิลปะแบบสุโขทัยคล้ายกับองค์อื่น ทั่วไปในเมืองสุโขทัย ก่ออิฐถือปูนฐานกว้าง 12 ม. เป็นเรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมขึ้นไปสูง 16 ม. เหนือเรือนธาตุทำเป็นลำสี่เหลี่ยมย่อมุมตลอดถึงยอดที่เป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ยอดสุดมีฉัตร มีร่องรอยการซ่อมแซมตลอดมา แต่ไม่เสียทรงเดิม ฐานพุ่มมีลายปั้นเป็นรูปหน้าสิงห์สวยงาม หน้าสิงห์บ้านทิศเหนือยังสมบูรณ์บ้านอื่น ชำรุดและมีรอยซ่อม องค์เจดีย์ส่วนใหญ่มีคราบตะไคร่น้ำจับอยู่ทั่วไป จะมีการขุดแต่งหรือถากถางสถานที่ก็ต่อเมื่อใกล้วันจะมีงานเทศกาล ซึ่งเป็นงานเดียวกับงานไหว้พระธาตุบ้านตาก
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวถึงเรื่องเจดีย์ยุทธหัตถี ในหนังสืออธิบายระยะทางล่องลำน้ำปิงว่า ...."มีพระเจดีย์องค์หนึ่งบนดอยช้างเหนือดอยพระธาตุ เรียกว่า พระปรางค์ แต่ที่จริงเป็นพระเจดีย์แบบสุโขทัย เหมือนพระเจดีย์องค์กลางที่วัดเจดีย์เจ็ดแถวเมืองศรีสัชนาลัย และพระเจดีย์ที่วัดกระพังเงิน ในเมืองสุโขทัย พระเจดีย์รูปนี้ที่วัดพระธาตุเมืองกำแพงเพชรก็มีอีกองค์หนึ่ง เข้าใจว่าเป็นฝีมือช่างครั้งกรุงสุโขทัยสร้างไว้ ขนาดสูงตลอดยอดประมาณ 20 วา มีผู้ซ่อมแต่ซ่อมดีไม่แก้รูป เดิมลายหน้าราหูยังปรากฏอยู่ พระเจดีย์องค์นี้สร้างบนยอดดอยที่ต่ำกว่าดอยที่สร้างพระธาตุ ควรเข้าใจว่าสร้างที่หลังพระธาตุในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมีเรื่องปรากฏว่า เมื่อครั้งพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ อันเป็นวงศ์พระร่วงครองกรุงสุโขทัยนั้น ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด เข้ามาตีเมือง พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ยกทัพ พ่อขุนรามคำแหงผู้ราชบุตรเข้าชนช้างกับขุนสามชนจนมีชัยชนะ ข้าศึกแตกพ่ายไป น่าสันนิษฐานว่าพระเจดีย์องค์นี้จะสร้างเป็นของเฉลิมพระเกียรติเรื่องชนช้างคราวนั้น แต่พระเจ้ารามคำแหงจะสร้างเองหรือจะสร้างในรัชกาลหลังมาไม่มีเค้าเงื่อนจะรู้ได้แน่นอน
ที่มาhttp://www.thai-tour.com/thai-tour/North/tak/data/place/baantak.htm

ปริศนาพระเจ้าทันใจ


อัศจรรย์ทันตา ปริศนาพระเจ้าทันใจ
เรื่องของความเชื่อ ความศรัธทา ในทางพุทธศาสนา หรือทางไสยศาสตร์ กับวิถีชีวิตของคนไทย นั้นเป็นเรื่องที่แยกกันแทบไม่ออก บางเรื่องเป็นเรื่องเร้นลับยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ หลายๆ เรื่องเป็นเหตุการณ์อัศจรรย์ เกิดขึ้นกับคนหลายคนในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างเช่นเรื่องที่ผมจะได้เล่าให้ฟังดังต่อไปนี้
เช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2552 ณ ตำบลเกาะตะเภา อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ชาวบ้านและเยาวชนนับพันคน รวมทั้งผู้นำหมู่บ้านไปจนถึงกลุ่มผู้นำในระดับจังหวัดนี้ ล้วนแต่งกายงดงามด้วยอาภรณ์พื้นเมืองตามแบบฉบับของชาวไทยล้านนา เดินทางมารวมตัวกันประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ณ บริเวณหนองเล่ม หน้าองค์เจดีย์ยุทธหัตถี ซึ่งเป็นเจดีย์ที่พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ได้สร้างไว้ในคราวกระทำยุทธหัตถีชนะขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด
ทุก คนมาเพื่อร่วมพิธีแห่งผ้าขึ้นธาตุเดือน 9 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาต่อพระบรมธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ตั้งอยู่ภายในวัดพระบรมธาตุ ซึ่งเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาในละแวกเดียวกัน ประเพณีนี้เป็นประเพณียิ่งใหญ่เฉกเช่นทุกปีที่ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา ด้วยความเคารพศรัทธา
แต่ทว่าสภาพอากาศในเช้าตรู่วันนั้นไม่ค่อยเป็นใจนัก ด้วยอาจเป็นเพราะล่วงเข้าฤดูฝน ในยามต้นข้าวเขียวขจีเต็มท้องทุ่ง สายฝนมักจะโปรยปรายสม่ำเสมออย่างไม่สามารถเอาแน่ได้ว่า พระพิรุณจะบันดาลให้สายน้ำใสบริสุทธิ์นี้ตกล่วงลงมาเมื่อใด หรือ ณ แห่งใด
ที่แน่ๆ ขณะนั้นฝนโปรยปราย มหาชนชาวบ้านต่างเข้าหาทีกำบัง ส่วนใหญ่ก็เป็นใต้ร่มเงาไม้ ทุกคนต่างพากันวิตกว่าพิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุเดือน 9 ในวันนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร หลายสิ่งที่เตรียมการไปแล้วจะต้องเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนต้นฤดูกระนั้นหรือ...
หญิงวัยชราผมสีดอกเลาสวมเสื้อสีขาวคนหนึ่ง แกมายืนอยู่ข้างๆ ผมในศาลาทางเข้าหนองเล่มแห่งนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันสังเกต หญิงชราเงยหน้ามองฟ้าทั้งที่หลังของแกนั้นงุ้มงอ พรางเปรยออกมาอย่างแผ่วเบาพอได้ยินว่า “เป็นอย่างนี้ทุกปี๋ เดี๋ยวก็หยุดละ”
ผมลังเลที่จะเชื่อคำพูดของคุณยายเมื่อสักครู่ ดูจากลักษณะท่าทางแล้วคุณยายคงเป็นชาวอำเภอบ้านตาก คงจะมาร่วมพิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุเดือน 9 อยู่เป็นประจำทุกปี ถึงได้มั่นใจว่าฝนที่กำลังพรั่งพรูลงมาจะต้องหยุดลงในอีกไม่ช้า
เวลาผ่านไปไม่นานนัก เมฆสีเทาเริ่มเคลื่อนตัวออกไปทางทิศใต้ สายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาชวนให้ขนแขนลุกตั้ง แสงอาทิตย์ส่องประกายลอดผ่านขอบปุยเมฆ หลายคนที่กำลังจดจ่ออยู่กับพิธีอันยิ่งใหญ่มีสีหน้าที่ดีขึ้น เยาวชนนักเรียนเริ่มออกเดินไปตั้งแถวพร้อมถือตุงสวยงามตามแบบฉบับล้านนาโบก สบัดเพราะแรงลมส่งท้ายฝน
ชาว บ้านหลายคนคุยกันอื้ออึงถึงเรื่องความอัศจรรย์ ผมนึกถึงคำพูดของคุณยายเมื่อสักครู่ที่ว่า "ฝนจะหยุดในไม่ช้า" และในตอนนี้ผมเห็นคุณยายจากด้านหลังที่งุ้มงอ ซึ่งแกกำลังเร่งเดินเข้าไปร่วมขบวนแห่อันยิ่งใหญ่สวยงาม
ที่มาhttp://www.neotools1.com/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88.html
วัดพระบรมธาตุ ภาพและประวัติ วัดพระบรมธาตุ

อยู่ที่ตำบลเกาะตะเภา อ.บ้านตาก อยู่ห่างจากอ.บ้านตากประมาณ 36 กม. ตามทางหลวงหมายเลข 1107 ประมาณ 35 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1175 อีกประมาณ 1 กม. จะแลเห็นวัดพระบรมธาตุอยู่ทางซ้ายมือ หรือถ้าใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ตรงกม.ที่ 442 เข้าอ.บ้านตากประมาณ 300 ม. เลี้ยวขวาเข้าตลาดบ้านตากไปจนสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้ายผ่านสะพานข้ามแม่ปิงแล้วเลี้ยวขวาผ่านวัดท่านา เลี้ยวซ้ายผ่านวัดทุ่งยั้งไปจนสุดถนน เลี้ยวขวาไปจนสุดทางลาดยางเข้าถนนลูกรังจนถึงสามแยก แล้วแยกซ้ายอีก 200 ม. ถึงวัดพระบรมธาตุ ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ
วัดพระบรมธาตุ เป็นวัดเก่าแก่ ได้รับการปฏิสังขรณะ าหลายครั้งแล้ว ตัวอุโบสถมีประตูเป็นไม้แกะสลักสวยงาม หน้าบันและจั่วเป็นไม้ หน้าต่างแกะเป็นพุทธประวัติปิดทอง หัวบันไดเป็นนาค วิหารของวัดซึ่งเป็นวิหารเก่ามีเพดานสูง 2 ชั้น มีช่องลมอยู่โดยรอบ ทำให้อากาศภายในเย็น วิหารนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีวิหารไม้เก่าแก่ที่มีลายแกะสลักไว้ไห้ชม นับเป็นวัดที่มีคุณค่าทางโบราณคดีมาก
ที่มาhttp://www.thai-tour.com/thai-tour/North/tak/data/place/baantak.htm

ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อทันใจ








ตำนานหลวงพ่อทันใจ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก

"ตะกุตะ กะ จายาริโย เอวัง วันตา อะหัง วันทามิ สัพพะทา" บทสวดนมัสการ "หลวงพ่อทันใจ" วัดพระบรมธาตุบ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก ที่สาธุชนผู้เลื่อมใสศรัทธา มีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อทันใจ ว่าขอสิ่งใด ล้วนแต่ได้สมดังใจปรารถนาทุกประการ

วันนี้ไปเที่ยวบ้านตาก กราบนมัสการบูชา หลวงพ่อทันใจ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก จ.ตาก


ที่นี่มีการสะเดาะเคราะห์ด้วยการจุดเทียนนะครับ




วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ยังปรากฏในศิลาจารึของพ่อขุนรามคำแหง ที่ทรงกระทำยุทธหัตถี ชนะศึกเจ้าเมืองฉอด บนเนินเขาใกล้กับพระบรมธาตุ ประมาณ 500 เมตร
ตามตำนานพระเจ้าเลียบโลก ซึ่งเขียนเป็นภาษาเหนือ กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดสัตว์ล่องมาตามลำน้ำปิง พระองค์ได้เสด็จมายังดอยมะหิยังกะ ในเขตตัวเมืองตาก ตรัสกับพระอานนท์ว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่สำราญ ร่มรื่น หากเราตถาคตปรินิพพานแล้วให้นำอัฐิและเกศากลับมายังดอยมะหิยังกะ

โดยคณะศรัทธาได้ตั้งชื่อว่า "พระเจ้าทันใจ" เพราะทำเสร็จเร็วทันใจ ต่อมามีญาติโยมได้มาตั้งจิตอธิษฐาน ขออะไรก็ได้สมความปรารถนา ทุกสิ่งทุกประการ นับเวลาจนปัจจุบันประมาณ 200 กว่าปีมาแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2519 นายทิพย์ หิงคานนท์ อดีตข้าราชการครู หลังเกษียณอายุราชการ ได้ล้มป่วยลงอาการหนักมาโดยตลอด จึงได้มาสักการะพระบรมธาตุ และอธิษฐานต่อองค์หลวงพ่อทันใจ ขอให้หายป่วย มีสุขภาพดีแข็งแรง จะกลับมาทอดกฐินที่วัดแห่งนี้ 15 ปี

ปรากฏว่า เป็นจริงดั่งคำอธิษฐาน อาการเจ็บป่วยของนายทิพย์ทุเลาลงตามลำดับ และในปี พ.ศ.2520 จึงมาทอดกฐินพร้อมคณะญาติชาวจังหวัดชลบุรี ต่อเนื่องจนครบ 15 ปี และต่อมาอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งนายทิพย์ได้ถึงแก่กรรมในวัย 89 ปี แต่ความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทันใจยังคงแพร่ขยายไปทั่วสารทิศ เช่น นักฟุตบอลทีมชาติไทย เคยยกทีมมาไหว้แก้บนเมื่อหลายปีก่อน, บรรดานักการเมืองระดับชาติ, นักธุรกิจใหญ่ ต่างเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทันใจ เดินทางมาแก้บนตามที่ได้อธิษฐานไว้

หลวงพ่อทันใจ ไม่เพียงแต่ดลบันดาล ในเรื่องหน้าที่การงาน ธุรกิจ การค้าขาย สำเร็จไปด้วยดีเท่านั้น ยังรวมไปในเรื่องของความรัก คู่ครอง และขอ บุตร-ธิดา

โดยเครื่องบูชาหลวงพ่อทันใจ จะเป็นกล้วย ส้ม ผลไม้ตามฤดูกาล ส่วนของไหว้ประเภทเนื้อสัตว์ทุกชนิด ห้ามนำเข้ามาถวายและห้ามนำเข้าเขตพัทธสีมาอย่างเด็ดขาด ยกเว้น ไข่ต้มสุกอย่างเดียว
ข้อมูลที่มาhttp://www.thaitripdd.com/webboard/index.php?topic=1715.0