
อัศจรรย์ทันตา ปริศนาพระเจ้าทันใจ
เรื่องของความเชื่อ ความศรัธทา ในทางพุทธศาสนา หรือทางไสยศาสตร์ กับวิถีชีวิตของคนไทย นั้นเป็นเรื่องที่แยกกันแทบไม่ออก บางเรื่องเป็นเรื่องเร้นลับยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ หลายๆ เรื่องเป็นเหตุการณ์อัศจรรย์ เกิดขึ้นกับคนหลายคนในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างเช่นเรื่องที่ผมจะได้เล่าให้ฟังดังต่อไปนี้
เช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2552 ณ ตำบลเกาะตะเภา อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ชาวบ้านและเยาวชนนับพันคน รวมทั้งผู้นำหมู่บ้านไปจนถึงกลุ่มผู้นำในระดับจังหวัดนี้ ล้วนแต่งกายงดงามด้วยอาภรณ์พื้นเมืองตามแบบฉบับของชาวไทยล้านนา เดินทางมารวมตัวกันประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ณ บริเวณหนองเล่ม หน้าองค์เจดีย์ยุทธหัตถี ซึ่งเป็นเจดีย์ที่พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ได้สร้างไว้ในคราวกระทำยุทธหัตถีชนะขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด
ทุก คนมาเพื่อร่วมพิธีแห่งผ้าขึ้นธาตุเดือน 9 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาต่อพระบรมธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ตั้งอยู่ภายในวัดพระบรมธาตุ ซึ่งเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาในละแวกเดียวกัน ประเพณีนี้เป็นประเพณียิ่งใหญ่เฉกเช่นทุกปีที่ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา ด้วยความเคารพศรัทธา
แต่ทว่าสภาพอากาศในเช้าตรู่วันนั้นไม่ค่อยเป็นใจนัก ด้วยอาจเป็นเพราะล่วงเข้าฤดูฝน ในยามต้นข้าวเขียวขจีเต็มท้องทุ่ง สายฝนมักจะโปรยปรายสม่ำเสมออย่างไม่สามารถเอาแน่ได้ว่า พระพิรุณจะบันดาลให้สายน้ำใสบริสุทธิ์นี้ตกล่วงลงมาเมื่อใด หรือ ณ แห่งใด
ที่แน่ๆ ขณะนั้นฝนโปรยปราย มหาชนชาวบ้านต่างเข้าหาทีกำบัง ส่วนใหญ่ก็เป็นใต้ร่มเงาไม้ ทุกคนต่างพากันวิตกว่าพิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุเดือน 9 ในวันนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร หลายสิ่งที่เตรียมการไปแล้วจะต้องเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนต้นฤดูกระนั้นหรือ...
หญิงวัยชราผมสีดอกเลาสวมเสื้อสีขาวคนหนึ่ง แกมายืนอยู่ข้างๆ ผมในศาลาทางเข้าหนองเล่มแห่งนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันสังเกต หญิงชราเงยหน้ามองฟ้าทั้งที่หลังของแกนั้นงุ้มงอ พรางเปรยออกมาอย่างแผ่วเบาพอได้ยินว่า “เป็นอย่างนี้ทุกปี๋ เดี๋ยวก็หยุดละ”
ผมลังเลที่จะเชื่อคำพูดของคุณยายเมื่อสักครู่ ดูจากลักษณะท่าทางแล้วคุณยายคงเป็นชาวอำเภอบ้านตาก คงจะมาร่วมพิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุเดือน 9 อยู่เป็นประจำทุกปี ถึงได้มั่นใจว่าฝนที่กำลังพรั่งพรูลงมาจะต้องหยุดลงในอีกไม่ช้า
เวลาผ่านไปไม่นานนัก เมฆสีเทาเริ่มเคลื่อนตัวออกไปทางทิศใต้ สายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาชวนให้ขนแขนลุกตั้ง แสงอาทิตย์ส่องประกายลอดผ่านขอบปุยเมฆ หลายคนที่กำลังจดจ่ออยู่กับพิธีอันยิ่งใหญ่มีสีหน้าที่ดีขึ้น เยาวชนนักเรียนเริ่มออกเดินไปตั้งแถวพร้อมถือตุงสวยงามตามแบบฉบับล้านนาโบก สบัดเพราะแรงลมส่งท้ายฝน
ชาว บ้านหลายคนคุยกันอื้ออึงถึงเรื่องความอัศจรรย์ ผมนึกถึงคำพูดของคุณยายเมื่อสักครู่ที่ว่า "ฝนจะหยุดในไม่ช้า" และในตอนนี้ผมเห็นคุณยายจากด้านหลังที่งุ้มงอ ซึ่งแกกำลังเร่งเดินเข้าไปร่วมขบวนแห่อันยิ่งใหญ่สวยงาม
ที่มา
http://www.neotools1.com/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88.htmlวัดพระบรมธาตุ ภาพและประวัติ วัดพระบรมธาตุ
อยู่ที่ตำบลเกาะตะเภา อ.บ้านตาก อยู่ห่างจากอ.บ้านตากประมาณ 36 กม. ตามทางหลวงหมายเลข 1107 ประมาณ 35 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1175 อีกประมาณ 1 กม. จะแลเห็นวัดพระบรมธาตุอยู่ทางซ้ายมือ หรือถ้าใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ตรงกม.ที่ 442 เข้าอ.บ้านตากประมาณ 300 ม. เลี้ยวขวาเข้าตลาดบ้านตากไปจนสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้ายผ่านสะพานข้ามแม่ปิงแล้วเลี้ยวขวาผ่านวัดท่านา เลี้ยวซ้ายผ่านวัดทุ่งยั้งไปจนสุดถนน เลี้ยวขวาไปจนสุดทางลาดยางเข้าถนนลูกรังจนถึงสามแยก แล้วแยกซ้ายอีก 200 ม. ถึงวัดพระบรมธาตุ ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ
วัดพระบรมธาตุ เป็นวัดเก่าแก่ ได้รับการปฏิสังขรณะ าหลายครั้งแล้ว ตัวอุโบสถมีประตูเป็นไม้แกะสลักสวยงาม หน้าบันและจั่วเป็นไม้ หน้าต่างแกะเป็นพุทธประวัติปิดทอง หัวบันไดเป็นนาค วิหารของวัดซึ่งเป็นวิหารเก่ามีเพดานสูง 2 ชั้น มีช่องลมอยู่โดยรอบ ทำให้อากาศภายในเย็น วิหารนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีวิหารไม้เก่าแก่ที่มีลายแกะสลักไว้ไห้ชม นับเป็นวัดที่มีคุณค่าทางโบราณคดีมาก
ที่มา
http://www.thai-tour.com/thai-tour/North/tak/data/place/baantak.htm