















ชาวตำบลหาดเสี้ยวที่นับถือศาสนาพุทธ มีความเชื่อในเรื่อง อานิสงค์ของการบวช ทั้งการบวชพระ และบวชเณร ดังนั้นครอบครัว ที่มีบุตรหลานเป็นชาย เมื่ออายุครบบวช ก็จะจัดการทำพิธีบวชให้
ผู้บวชที่จะบวชพระได้ ต้องมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ส่วนเด็กที่จะบวชเณรนั้น บวชได้ตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไป ผู้ชายหาดเสี้ยวคนใด ที่มีเหตุจำเป็น ไม่ได้บวชเมื่ออายุครบ หรือแต่งงานก่อนบวช พ่อแม่ก็ต้องพยายามหาโอกาส ให้บวชให้ได้ ในภายหลัง แต่เดิม จะนิยมจัดงานในวันแรม 3 ค่ำ เดือน 4 และบวชในวันแรม 4 ค่ำ เดือน 4
งานบวชนี้ จะจัดงานรวมทั้งสิ้น 3 วัน คือ วันสุกดิบ เป็นวันเตรียมตัวของผู้บวช และเจ้าภาพ ในการจัดเตรียม ในเรื่องอาหารไว้เลี้ยงแขก ที่เชิญมาร่วมงาน รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องอัฐบริขาร ซึ่งเรียกว่า “เครื่องกองบวช”
วันที่สอง เป็นวันแห่นาค ในวันนี้จะทำพิธี โกนผมนาค อาบน้ำ แต่งตัวนาคจะสวมเสื้อสีสด บางคนใส่เสื้อกำมะหยี่สีเหลือง ที่สาบเสื้อ และปลายแขนประดับด้วยตีนจก นุ่งโจงกระเบนหลากสี เช่น สีเขียว แดง ม่วง ตกแต่งด้วยเครื่องประดับ เช่น สร้อยคอทองคำ เข็มขัดนาค แหวน สวมเทริดที่ตกแต่งด้วยดอกไม้ไว้เหนือศีรษะ แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง และสวมแว่นตาดำ
ส่วนช้างที่นำมาร่วมขบวน เป็นพาหนะของนาค ก็จะถูกนำไปอาบน้ำที่แม่น้ำยม ตกแต่งด้วยผ้าลาดช้าง และผ้าคลุมหัวช้าง ที่ตกแต่งด้วยผ้าที่จก เป็นลวดลาย บนคอช้าง วางพาดด้วยฝ้ายใจขนาดใหญ่ สีขาว ซึ่งผ้าต่างๆเหล่านี้ ในสมัยก่อน จะทอกันเอง เตรียมไว้แต่เนิ่นๆ
การแห่นาคด้วยขบวนช้างนั้น จะจัดขึ้นในตอนบ่าย โดยที่นาคทุกคน จะมารวมตัวกัน ที่วัดหาดเสี้ยว ก่อนที่จะตั้งขบวนแห่ ไปตามถนนใตลาด และอ้อมผ่านถนนนอกชุมชน แล้วจึงย้ายไปตามบ้านของตน ในตอนค่ำจึงมีพิธีทำขวัญนาค
ในวันที่สาม ซึ่งเป็นวันบวชนั้น จะจัดพิธีธรรมดาเป็นการพานาคเดินไปวัดเพื่อทำพิธีขอบวชนาคเช่นเดียวกับการบวชทั่วไป เมื่อขอบวชเรียบร้อยแล้ว ก็ถือเป็นการเสร็จพิธี หลังจากบวชแล้วจะมีคำเรียกผู้ที่บวชเป็นพระว่า “เจ้าหัว”หรือ “หม่อม” เมื่อสึกออกไปแล้ว จะมีคำนำหน้าชื่อว่า “อ้ายทิด” ส่วนสามเณรนั้น จะมีคำนำหน้าเรียกว่า “จั่วอ๊าย” และเมื่อสึกออกไปแล้ว จะมีคำนำหน้าชื่อว่า “เซียง”