ในพืชเราเรียกการหายใจว่าการแลกเปลี่ยนก๊าซ ราก ลำต้น และใบ มีหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซด้วยตัวเอง(รากและลำต้นมีการแลกเปลี่ยนก๊าซไม่มากนัก) ในขณะที่พืชสังเคราะห์ด้วยแสง ที่ใบจะมีการแลกเปลี่ยนก๊าซเกิดขึ้น โดยเฉพาะใบที่มีสีเขียวมากสุด ผิวนอกสุดด้านบนของใบจะมีสารเคลือบผิวที่เรียกว่า คิวทิเคิล (Waxy Cuticle) เคลือบไว้ มีลักษณะเป็นมัน แห้ง เรียบ ป้องกันการระเหยของน้ำ รากจะรับเอาออกซิเจนจากอากาศผ่านเข้าไปตามช่องว่างระหว่างอนุภาคของดิน ผ่านเข้าสู่ขนราก ออกซิเจนผ่านเข้าสู่ไซโทพลาสซึมของขนรากแล้วแพร่กระจายไปยังเซลล์ข้างเคียงต่อไป คาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นภายในเซลล์จะแพร่ออกในทิศทางตรงข้ามกับออกซิเจน 3. ระบบสืบพันธุ์
การสืบพันธุ์(Reproduction) เป็นกระบวนการที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของสิ่งมีชีวิตในการดำรงเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตไว้ ประเภทของการสืบพันธุ์
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ (Sexual Reproduction) หมายถึง การสืบพันธุ์ที่ต้องมีการผสม ระหว่างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ กับเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย อวัยวะที่ใช้ในการสืบพันธุ์ คือ ดอก
ดอก คือ อวัยวะหรือส่วนของพืชที่เจริญและเปลี่ยนแปลงมาจากกิ่ง เพื่อการสืบพันธุ์ ดอกมีส่วนประกอบที่สำคัญดังนี้ 1) กลีบเลี้ยง (Sepal) เป็นชั้นนอกสุดของดอก มักมีขนาดเล็กและมีสีเขียว มีหน้าที่ป้องกันดอกอ่อนที่ตูม 2) กลีบดอก (Petal) เป็นชั้นที่สวยงาม มักมีขนาดใหญ่กว่ากลีบเลี้ยง ทำหน้าที่ล่อแมลงเพื่อช่วยในการผสมเกสร 3) เกสรตัวผู้ (Stamen) เป็นชั้นที่อยู่ถัดจากกลีบดอกเข้าไป แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ก้านเกสรตัวผู้และอับเรณู ภายในอับเรณู จะมีละอองเรณูซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ 4) เกสรตัวเมีย (Pistil) เป็นชั้นในสุดของดอก ประกอบด้วยยอดเกสรตัวเมียอยู่ส่วนบนสุด ส่วนล่างที่พองเป็นกระเปาะ เรียกว่า รังไข่(Ovary) ตั้งอยู่บนฐานรองดอก ภายในรังไข่มี ออวุล (Ovule) ซึ่งมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ ภายใน ออวุล จะสามารถแบ่งตัวเป็นเซลล์สืบพันธุ์เพศเมียหรือไข่ต่อไป
ประเภทของดอก ดอกไม้แม้จะมีรูปร่างแตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะมีส่วนประกอบต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้วเหมือนกัน ถ้านำส่วนประกอบของดอกไม้มาแบ่งตามเกณฑ์ โดยใช้เกณฑ์ใหญ่ๆ 2 เกณฑ์ ได้แก่ใช้เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียเป็นเกณฑ์ แบ่งดอกออกเป็น 2 ชนิด 1) ดอกสมบูรณ์เพศ (Perfect Flower) หมายถึง ดอกที่มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน เช่น ข้าว มะม่วง กุหลาบ ชบา ต้อยติ่ง มะเขือ พริก บัว ผักบุ้ง และมะลิ เป็นต้น 2) ดอกไม่สมบูรณ์เพศ (Imperfect Flower) หมายถึง ดอกที่มีแต่เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ข้าวโพด ตำลึง ฟักทอง มะละกอ เงาะ และมะยม เป็นต้น
การใช้ส่วนประกอบของดอกเป็นเกณฑ์ แบ่งดอกออกเป็น 2 ชนิด 1) ดอกครบส่วน (Complete Flower) หมายถึง ดอกที่มีส่วนประกอบครบทั้ง 4 ชั้น คือ กลีบเลี้ยง กลีบดอกเกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมีย เช่น กุหลาบ ผักบุ้ง ชบา มะลิ และ แค เป็นต้น 2) ดอกไม่ครบส่วน (Incomplete Flower) หมายถึง ดอกที่มีส่วนประกอบไม่ครบ ทั้ง 4 ชั้น เช่น ข้าวโพด กล้วยไม้ เฟื่องฟ้า บานเย็น มะละกอ ตำลึง ฟักทอง แตงกวา บวบ และข้าว เป็นต้น
สรุปได้ว่า ดอกครบส่วนคือดอกสมบูรณ์เพศ ดอกไม่ครบส่วนจะเป็นดอกไม่สมบูรณ์เพศเสมอ การถ่ายละอองเรณู (Pollination) หมายถึง การที่ละอองเรณูที่แก่จัดแล้วปริแตกออกจากอับละอองเรณู ปลิวไปตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย การถ่ายละอองเรณูถือว่าเป็นการเริ่มต้นการสืบพันธุ์ของพืช การถ่ายละอองเรณูเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยอาศัย ลม น้ำ และสัตว์ เช่น นก แมลง และมนุษย์ จำแนกออกเป็น 2 ชนิดคือ
1) การถ่ายละอองเรณูในดอกเดียวกัน (Self Pollination) โดยละอองเรณูไปตกบนยอดเกสรตัวเมียภายในดอกเดียวกัน 2) การถ่ายละอองเรณูข้ามดอก (Cross Pollinationโดยละอองเรณูจากดอกหนึ่งไปตกบนยอดเกสรตัวเมียของอีกดอกหนึ่ง การงอกของละอองเรณู เมื่อละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย ซึ่งมีสารละลายน้ำตาล จะทำให้ละอองเรณูงอกเป็นหลอดยาวแทงไปตามก้านเกสรตัวเมีย เพื่อเข้าไปผสมพันธุ์กับเซลล์ไขใน ออวุล โดยละอองเรณู 1 เซลล์ จะเข้าผสมกับ ออวุล 1 อัน ดังนั้น ดอก ซึ่งมี ออวุล หลายอัน ก็ต้องมี ละอองเรณูหลายเซลล์เข้ามาผสมด้วย2. การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ (Asexual Reproduction) พืช นอกจากจะขยายพันธุ์โดยอาศัยดอกแล้ว ยังสามารถขยายพันธุ์โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยดอก โดยใช้ส่วนต่างๆของพืช เช่น ราก ลำต้น ใบ ไปปักชำ ทาบกิ่งตอน ต่อกิ่ง ติดตา เป็นต้น
ตัวอย่างการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
การแตกหน่อ (Budding ) เริ่มต้นจากนิวเคลียสของเซลล์แบ่งจนได้เซลล์ใหม่ที่มีจำนวนโครโมโซมเท่ากับเซลล์เดิม เซลล์เหล่านี้จะเจริญเป็นหน่อที่มีขนาดเล็กก่อนเมื่อหลุดออกมาจากตัวแม่ จะเจริญเป็นอิสระทำให้ขนาดและรูปร่างเหมือนกับตัวแม่ทุกประการ
การสร้างสปอร์ (Sporulation) พบในเห็ด รา สาหร่าย และพืชชั้นต่ำบางชนิด เช่น มอส เฟิร์น
การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (Tissue Culture) ซึ่งทำได้โดยการตัดเอาตาอ่อน ยอดอ่อน หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของพืชที่เห็นว่าเป็นพันธุ์ดีและต้องการจะขยายพันธุ์ แล้วนำไปเลี้ยงในอาหารสังเคราะห์ในสภาพปลอดเชื้อ เมื่อตาอ่อนหรือส่วนของพืชแบ่งตัว เพิ่มจำนวนเซลล์ แล้วตัดแบ่งไปเจริญเป็นต้นใหม่ได้อีก นิยมทำฝนพืชเศรษฐกิจ เช่น กล้วยไม้ มะพร้าว เป็นต้น
ที่มา http://weerasak.net/ch_3.html