ลักษณะอากาศทั่วไป  หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียง ใต้พาดผ่านประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักได้ในบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 14-15 พ.ค. 52 นี้   ไม่มีรายงานแผ่นดินไหวที่รู้สึกได้ในประเทศไทย ภาคเหนือตอนบน  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝน/ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมใต้  10-25 กม./ชม. ภาคเหนือตอนล่าง  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝน/ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส   ลมใต้  10-25 กม./ชม.

ที่มาhttp://www.cmmet.tmd.go.th/

ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย"  ฉบับที่ 2 (85/2552) ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2552

หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มบริเวณจังหวัดตาก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี ระยอง นครนายก ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในระยะ 2-3 วันนี้ (14-16 พฤษภาคม 2552)  ประกาศ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552  ออกประกาศ เวลา 16.00 น.  สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา  กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  ที่มา  http://www.tmd.go.th/warningwindow.php?wID=1776

จะเกิดวิกฤติโลกปี ค.ศ. 2030

ผู้นำสูงสุดทางวิทยาศาสตร์แห่งรัฐบาลสหราชอาณาจักร ได้กล่าวเตือนไว้ว่า จำนวนประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้นนี้ จะทำให้เกิดการขาดแคลนในทุกเรื่องคือ อาหาร พลังงาน และน้ำ โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 2030 หรืออีก 21 ปี ข้างหน้า จะรุนแรงมากถึงขั้นเกิดภัยพิบัติร้ายแรงมากตามมา   ฝรั่งเขาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “พายุสมบูรณ์แบบ” หรือ Perfect Storm ก็เป็นพายุของอุบัติภัยในทุกเรื่องดังกล่าวข้างต้น   ศาสตราจารย์จอห์น เบดคิงตัน ผู้นำนักวิทยาศาสตร์ของอังกฤษ ได้กล่าวในที่ประชุมสัมมนาการพัฒนาแบบยั่งยืนแห่งสหราชอาณาจักรที่กรุงลอนดอนเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง ว่า ความต้องการด้านอาหารและพลังงานจะสูงเพิ่มอีก 50% ในปี  ค.ศ. 2030 และน้ำจืดจะต้องการเพิ่มอีก 30% ในขณะที่พลเมืองของโลกจะมากถึง 8,300 ล้านคน โดยเฉพาะสภาวะเรื่องโลกร้อนจะทำให้เรื่องเหล่านี้ซ้ำร้ายมากขึ้นจนคาดการณ์อะไรไม่ได้เลย “มันจะเป็นพายุที่สมบูรณ์แบบ คือมันจะไม่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง แต่ทุกสิ่งจะทำให้มนุษย์ต้องกังวลอย่างมาก” และเรื่องนี้จะเกิดทั่วทั้งโลก โดยเฉพาะการขาดแคลนด้านอาหารและน้ำ   แม้ที่เกาะอังกฤษจะไม่รุนแรงมาก แต่รับรองได้ว่าราคาอาหารและพลังงานจะสูงขึ้นมาก ปริมาณน้ำจืดที่มีต่อหัวของประชากรโลกจะลดต่ำ ลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา ยุโรป และเอเชียในปี ค.ศ. 2025    เรื่องความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานทำให้เกิดปัญหาเรื่องการเมืองมาแล้วโดยเฉพาะปีที่ผ่านมา ราคาน้ำมันสูงมาก และราคาอาหารหลายอย่างสูงขึ้น   ศาสตราจารย์จอห์น เบดคิงตัน ยังได้กล่าวว่า เราจะต้องปรับปรุงผลิตภาพด้านการเกษตรให้สูงขึ้นทั่วทั้งโลก ปัจจุบันผลผลิตทางการเกษตรที่สูญเสียไปจากแมลงและเชื้อโรคมีถึง 30-40%    เราจะต้องปลูกพืชที่ทนทานต่อแมลงและเชื้อโรค ซึ่งหมายความว่าเราอาจจะต้องกินอาหารประเภทจีเอ็มโอ ซึ่งมีความทนทานต่อความแห้งแล้งและความเค็มของดิน   การกักเก็บน้ำสะอาดไว้ใช้และการมีพลังงานที่สะอาดเป็นสิ่งสำคัญ ปัญหานี้จะต้องเป็นปัญหาที่ร่วมกันแก้ไข ทั่วทั้งโลก   ซึ่งท่านก็มองว่าจะต้องมีผู้นำสูงสุดด้านวิทยาศาสตร์แห่งสหภาพยุโรป ที่ทำงานได้เช่นเดียวกับผู้นำทางวิทยาศาสตร์ของโอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน เพื่อมาช่วยกันชี้แนะทางออกให้รัฐบาลสำหรับบริหารทรัพยากรโลกร่วมกัน ท่านผู้อ่านพิจารณาแล้ว คิดเห็นอย่างไรครับ. รองศาสตราจารย์ ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล boonmark@rsu.ac.th ที่มา  http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=71973&NewsType=2&Template=1

อเมริกันตกงานหันไปเรียนออนไลน์

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้รายงานว่าสภาวะการตกงานทำให้คนเริ่มหันไปเพิ่มพูนทักษะวิชาชีพด้วยการเรียน   ออนไลน์มากขึ้นในสหรัฐอเมริกา ตัวอย่างรายหนึ่งคือ เคนริค สคาร์บรอ ซึ่งทำงานอยู่กับกองทัพเรือแห่งสหรัฐอเมริกามา 10 ปี ถูกปลดออกจากงานในเดือนมกราคมที่ผ่านมาจากพิษเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น แต่ไม่นานนัก เคนริค ก็ได้งานใหม่ด้วยอาชีพช่างเทคนิคดูแลเครื่องทำความร้อนในโรงงาน ในฐานะพลเรือนคนหนึ่งที่ดูสุขุมและเยือกเย็น   เคนริค อายุ 29 ปี อยู่ที่เมือง ชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา เริ่มเข้าที่ ปรับตัวเข้ากับงานใหม่ หลังจากดิ้นรนกระเสือกกระสนมานานหลายเดือน เขามีความรู้และมีทักษะทางช่าง มีรายได้ 32,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือประมาณ 90,000 บาทต่อเดือน ซึ่งก็ไม่มากนัก   เขาเลยคิดเรียนต่อทางวิศวกรรมนิวเคลียร์ เพื่อให้จบปริญญาตรี โดยเลือกเรียนที่วิทยาลัยเอกซ์เซล ซิเออร์ ที่รัฐนิวยอร์ก เพราะเป็นมหาวิทยาลัยไซเบอร์ ที่สอนด้วยระบบทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ตแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา มีนักศึกษา 32,000 คนทั่วโลก    ซึ่งทำให้เขาสามารถทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยได้อย่างสะดวก และเคนริคก็หวังว่าหลังจากจบวิศวกรรมนิวเคลียร์แล้วเงินเดือนของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า   ในรายงานข่าวได้กล่าวว่า คนที่กำลังจะตกงานหรือตกงานแล้ว หรือกระทั่งได้งานใหม่ที่อาจจะเงินเดือนยังไม่พอเพียง เริ่มหันมาเรียนทางออนไลน์จำนวนมากเพื่อให้ประวัติและคุณสมบัติในการสมัครงานหรือที่เรียกว่า Resume ดูดีขึ้น   คุณวิลเลี่ยม เอ็ม สจ๊วต ผู้ช่วยรองอธิการบดี แห่ง วิทยาลัยเอกซ์เซลซิเออร์ ได้กล่าวว่า “เมื่อพิษเศรษฐกิจทำให้ คุณฝันสลาย เริ่มคิดใหม่ เมื่อทางหนึ่งปิดอีกหลายร้อยทางเลือกยังมีอยู่”   ผลปรากฏว่า ประชาชนมาเรียนระดับปริญญาตรีในสาขาเทคโนโลยีมากกว่าที่คาดไว้ถึง 40% และทำให้จำนวนนักศึกษามาลงทะเบียนเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้วถึง 30%    นอกจากนี้ การเรียนออนไลน์เพื่อรับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพก็มีมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง อาชีพการงาน   ก็เปลี่ยนตามไปด้วย เช่น ที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย   เบอร์กลีย์ ฝ่ายการศึกษาต่อเนื่อง ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างชัดเจน เจสัน ลีมอน รองคณบดีและผู้อำนวยการศูนย์การศึกษา ออนไลน์ของมหาวิทยาลัยได้กล่าวว่า “เรามีนักศึกษามาลงทะเบียนเรียนออนไลน์เพิ่มขึ้นมหาศาล อันนี้ก็คือการเพิ่มคุณค่าสำหรับตนเองในทักษะที่จะต้องหางานทำใหม่”    จากการสำรวจการวิจัยของสมาคมสโลน ซึ่งเป็นมูลนิธิไม่หวังผลกำไรได้พบว่า สถาบันอุดมศึกษาเชื่อว่า ข่าวเศรษฐกิจที่เลวร้ายเป็นข่าวดีสำหรับสถาบันอุดมศึกษา เพราะจำนวนนักศึกษาจะลงทะเบียนเพื่อเรียนต่อมากขึ้น    ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ การลงทุนให้ตนเองมีคุณค่าด้วยการเพิ่มทักษะในวิชาชีพจะดีที่สุด. รองศาสตราจารย์ ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล boonmark@rsu.ac.th

ที่มา http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=71672&NewsType=2&Template=1